วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ผลไม้ควบคุมน้ำหนัก

                                                                 ผลไม้เพื่อสุขภาพ 
                  
                     

                 8 ผลไม้ลดความอ้วน ที่สาว ๆ ต้องลิ้มลอง



      เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

                คุณสาว ๆ คนไหนที่ปรารถนาจะมีหุ่นเพรียวสวยได้สัดส่วน ก็มักจะเลือกทานผลไม้เป็นของว่าง หรือบางรายก็ทานผลไม้แทนอาหารหลักบางมื้อเลยทีเดียว เพื่อที่ตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนักจะได้ลดลงสมใจ ว่าแต่...จะเลือกทานผลไม้อะไรดีล่ะ ถึงจะช่วยลดความอ้วนได้แบบสบาย ๆ แถมยังอิ่มท้อง วันนี้ เราก็มีผลไม้ 8 ชนิด ที่จะช่วยให้คุณสาว ๆ ลดความอ้วนได้ไม่ยากมาบอกกัน


      แอปเปิ้ล

       แอปเปิล

                ผลไม้สีแดง ๆ เขียว ๆ นี้ สามารถช่วยคุณสาว ๆ ลดความอ้วนได้อย่างสบาย ๆ เลยล่ะ เพราะแอปเปิลได้ชื่อว่าเป็นราชาของผลไม้ลดน้ำหนัก เนื่องจากแอปเปิลมีเส้นใยอาหาร หรือไฟเบอร์มากมาย เมื่อทานเข้าไปแล้ว จะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มท้องนาน เพราะน้ำตาลฟรักโทสในแอปเปิ้ลจะเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้า ๆ ช่วยให้ร่างกายไม่รู้สึกหิว

                นอกจากนั้นแล้ว แอปเปิลยังให้พลังงานเพียงแค่ 59 แคลอรี จึงไม่ทำให้อ้วน แถมยังมีวิตามิน แร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย โดยเฉพาะ "เพคติน" ที่มีคุณสมบัติพองตัวได้มาก มันจึงไปเพิ่มกากใยในอาหาร ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นไปอย่างปกติ จึงช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยจับคอเลสตอรอล และช่วยกำจัดสารพิษในร่างกายได้ด้วย


      ฝรั่ง

       ฝรั่ง

                สุดยอดผลไม้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินซีชนิดนี้ ช่วยให้คุณลดความอ้วนได้ไม่ยาก เพราะฝรั่งเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ แถมยังเคี้ยวเพลินอีกต่างหาก จึงเหมาะกับสาว ๆ ที่อยากกินจุบกินจิบเรื่อย ๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความอ้วนได้แล้ว วิตามินซีในฝรั่งยังช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ไร้ริ้วรอยอีกด้วย

                เพราะฉะนั้น หิวครั้งหน้า ก็อย่าลืมคว้าฝรั่งมาทานแทนขนมกรุบกรอบนะคะ อ๊ะ...คำเตือนก็คือ ทานแต่ฝรั่งเปล่า ๆ เท่านั้นนะ อย่าเผลอจิ้มพริกเกลือ พริกน้ำตาล เด็ดขาด เพราะจะทำให้อ้วนได้นะเออ


      แตงโม

       แตงโม

                แตงโมลูกโต ๆ รสหวาน ๆ ไม่ได้ทำให้คุณอ้วนแต่ประการใด เพราะแตงโม 1 ถ้วย ให้พลังงานเพียง 50 แคลอรีเท่านั้น แถมยังให้ไขมันน้อยนิด และยังชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำถึง 93% ของส่วนประกอบทั้งหมด ทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็ว เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัวเลยว่า แตงโม จะทำให้คุณสาว ๆ อ้วนได้ ตรงกันข้าม หากรับประทานแตงโมแทนอาหารมื้อเย็นหนัก ๆ ก็ช่วยลดความอ้วนได้ด้วย แต่ควรทานอย่างพอดี ไม่มากไปนะจ๊ะ ไม่เช่นนั้นท้องไส้จะปั่นป่วนเอาได้ แถมยังต้องเข้าห้องน้ำปัสสาวะบ่อย ๆ ด้วย


      ส้ม

       ส้ม

                สาว ๆ หลายคนมักแกะกากส้มออกจนหมด เพื่อให้ทานได้ง่าย ๆ แต่รู้ไหมว่า คุณกำลังทิ้งของดีไปเสียแล้ว เพราะกากใยของส้มนั่นแหละคือสิ่งที่จะช่วยควบคุมน้ำหนักตัวให้สาว ๆ ได้ โดยกากใยจะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็ว และช่วยทำให้ระบายท้องได้ดี อย่างไรก็ตาม ส้ม เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับผลไม้ลดความอ้วนชนิดอื่น ๆ ดังนั้น ควรรับประทานแต่พอดีแล้วกันนะ


      มะละกอ

       มะละกอ

                มะละกอ เป็นผลไม้ที่ช่วยขับสารพิษของเสียออกจากร่างกาย แถมยังช่วยกำจัดไขมันต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ด้วย โดยมะละกอมีเอนไซน์ปาเปน ที่จะช่วยย่อยโปรตีน และย่อยอาหาร จึงช่วยลดน้ำหนักได้อีกทางด้วย ส่วนใครที่อยากมีผิวพรรณสวย มะละกอ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสน เพราะมะละกอมีวิตามินซี และเบตาแคโรทีนสูง จึงช่วยบำรุงผิวพรรณได้


      แก้วมังกร

       แก้วมังกร

                แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่ช่วยให้คุณอิ่มท้องได้ง่าย ๆ ไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่น เพราะแก้วมังกรมีกากใยสูงและแคลอรีต่ำ แถมยังมีรสหวานอร่อย หลาย ๆ คน จึงเลือกรับประทานแก้วมังกรเป็นอาหารเย็น หรือทานรวมกับผักสลัดอื่น ๆ เพื่อช่วยลดน้ำหนัก โดยไม่ต้องห่วงว่าจะความหวานจะไปเป็นไขมันสะสมในภายหลัง 

                และนอกจากลดน้ำหนักแล้ว ผลพลอยได้จากแก้วมังกรที่คุณสาว ๆ ไม่ควรพลาดอีกเช่นกันก็คือ แก้วมังกรเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีวิตามินซีสูงมาก ดังนั้น จึงช่วยบำรุงผิวพรรณไปในตัว แถมยังช่วยกระตุ้นต่อมน้ำนมดีต่อคุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตรด้วย


      กีวี

       กีวี

                อีกหนึ่งผลไม้ยอดนิยมของสาว ๆ ที่ปรารถนาจะลดน้ำหนักเลยล่ะ เพราะกีวีเป็นผลไม้ที่มีกากใยมากกว่าแอปเปิ้ลและส้มถึง 25% ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและนาน แถมยังมีวิตามินซี และวิตามินอีสูง ซึ่งจะช่วยให้ผิวพรรณสดใส ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดคอเลสเตอรอลในเลือด บำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดงให้แข็งแรง และช่วยสลายไขมันในเลือดด้วย ใครที่ชอบทานกีวีจึงได้ประโยชน์จากกีวีแบบหลายเด้งเลย 


      เกรปฟรุต

       เกรปฟรุต 

                สุดยอดผลไม้ไดเอตที่กำลังเป็นที่นิยม เพราะเมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า การกิน "เกรปฟรุต" ครึ่งลูกก่อนมื้ออาหารจะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้อย่างเหลือเชื่อ โดยสามารถลดปริมาณแคลอรีได้ถึง 150 แคลอรีต่อวันเชียวนะ แถมเกรปฟรุตครึ่งลูกก็มีแคลอรีเพียงแค่ 39 แคลอรีเท่านั้นเอง

    ที่มา : http://health.kapook.com/view38726.html

วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ลดน้ำหนัก

                                                              ลดน้ำหนัก กกก . ! ♥ 
          ออกกำลังกาย กันเถอะค่ะ ><' หุ่นดีไม่พอจะทำให้สุขภาพดีด้วย ยิงนกครั้งเดียว ได้นกสองตัว อิอิ แต่เอ๋ ? ออกกำลังกายเหนื่อยและไม่สนุก จะทำยังไงดีนะ !! 
              ใช่สิ่! เรามาว่ายน้ำกันดีกว่า สนุกด้วย แข็งแรงด้วย และได้ผลในการลดน้ำหนักด้วยนะ 


ออกกำลังกายลดน้ำหนักกับการว่ายน้ำ

หลายๆ คนมีข้อสงสัยว่าการว่ายน้ำสามารถลดน้ำหนักได้หรือไม่ วันนี้เรามีเคล็ดลับในการว่ายน้ำลดความอ้วนมาฝากกัน การว่ายน้ำจัดเป็นกีฬาเพื่อสุขภาพอีกประเภทหนึ่งเ นอกจากสามารถลดน้ำหนักได้แล้ว การว่ายน้ำยังช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ นั้นแข็งแรงขึ้นอีกด้วย และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างก็คือการว่ายน้ำจัดได้ว่าเป็นกีฬาที่มีความสนุกสนาน ใครอยากลดความน้ำหนักและมีรูปร่างดีก็สามารถลองใช้วิธีการว่ายน้ำกันดูได้ แต่ก่อนที่จะเริ่มต้นลดน้ำหนักด้วยการว่ายน้ำนั้น ก็ต้องทำการวอร์มอัพก่อนทุกครั้งเหมือนกับการเล่นกีฬาประเภทอื่นๆ ส่วนเคล็ดลับการว่ายน้ำลดน้ำหนักนั้นเป็นอย่างไรเรามาดูกัน

เคล็ดลับ การลดน้ำหนักด้วยการว่ายน้ำ

1. ว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์ เป็นท่าว่ายน้ำที่สามารถว่ายได้เร็วที่สุดและใช้แรงเยอะที่สุด นอกจากนี้ยังทำให้กล้ามเนื้อสะโพก กล้ามเนื้อท้อง และกล้ามเนื้อหัวไหล่แข็งแรงขึ้นด้วย แต่ส่วนใหญ่จะมีปัญหากับการหายใจที่ผิดวิธี อย่างไรก็ตามท่านี้ถือว่ามีประโยชน์และเผาผลาญแคลอรีได้มากเลยทีเดียว
**ท่าฟรีสไตล์เป็นท่าที่เผาผลาญแคลอรีได้ 30 แคลอรี ทุก 10 นาที
2. ว่ายน้ำท่ากบ เป็นท่าที่ช่วยขยายปอด ใช้กล้ามเนื้อหน้าอก กล้ามเนื้อขา กล้ามเนื้อหัวไหล่ และกล้ามเนื้อแขนแข็งแรง ที่สำคัญที่สุดนั้นควรวอร์มอัพก่อนว่ายท...

                                                       ออกกำลังกายลดน้ำหนัก


 ทีมา :
http://www.thaifitandfirm.com/weightloss



5 ท่าโยคะ

                                                      5 ท่าโยคะ เอวเว้า!!! OoO
    
       ว้ายๆ มาถึงแล้วนะคะ สำหรับ ผู้หญิงที่อ้วนเฉพาะส่วนวันนี้เราจะมาดูเรื่องเอวดีกว่า เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของผู้หญิงที่สำคัญมาก ใครละจะอยากมีไขมันที่เอว ถ้าหนุ่มๆมาจับเอลละก็..... แหม! ไม่อยากจะคิด วันนี้เรามีท่าโยคะง่ายๆมาฝากนะคะ 



   
               ยืนอ้าขาประมาณช่วงตัว หัวลำตัวไปด้านขวา จากนั้นย่อเข่าขวาลง ขาซ้ายยืดตรงพร้อมยกมือทั้งสองข้างขึ้นตรงตึงข้างไว้


                ยืนตัวตรงกางขาออกเล็กน้อย เอนตัวไปด้านหลังประมาณ 45 องศา พยายามให้แขนขวาแตะข้อเท้าขวาทำสลับซ้ายขวา


 
                   ยืนตัวตรงจากนั้นยกขาขางซ้ายขึ้น แนบบริเวณน่องของขาขวา จากนั้นประสานมือไว้เหนือศรีษะ คล้ายท่าพนมมือข้างไว้

 
                      นอนคว่ำลงกับพื้น จากนั้นเอ่นตัวขึ้น พยายามเอามือสัมพัสปลายเท้าให้ได้ และค้างไว้


 
                       นอนหงายตัวลงกับพื้น ให้รู้สึกสบายผ่อนคลาย พร้อมหายใจเข้าหายใจออกให้เป็นจังหวะ


                                                         ที่มา : http://www.dek-d.com/nugirl/30892/






เมื้ออาหารในการลดน้ำหนัก

                                                                     ลดน้ำหนัก
     การลดน้ำหนักนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ออกกำลังกายและทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่คนไทยตามใจปาก ทั้งๆที่อยากจะผอม ขี้เกียดมากๆทั้งๆที่อยากสุขภาพดี ลองมาดูกันซิ! ว่าทานอาหารอย่างไรจึงจะไม่อ้วน 

สูตรลดน้ำหนัก สูตรที่ 1: สูตรลดน้ำหนัก ของสมเด็จพระเทพฯ 

         เป็นสูตรลดน้ำหนัก 7 วัน ค่ะ โดยก่อนรับประทานอาหาร ให้ดื่มน้ำก่อน 2 แก้ว และจัดอาหารแต่ละมื้อ ดังนี้

 วันที่ 1 

          มื้อเช้า : น้ำผลไม้ หรือโยเกริต์
          มื้อกลางวัน : ไข่ต้มสองฟอง
          มื้อเย็น : สลัดผัก

 วันที่ 2 

          มื้อเช้า : น้ำผลไม้หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม
          มื้อกลางวัน : ไข่ต้มสองฟอง
          มื้อเย็น : โยเกิรต์

 วันที่ 3

          มื้อเช้า : โยเกิรต์หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม
          มื้อกลางวัน : เกาเหลาลูกชิ้นหมู
          มื้อเย็น : สับปะรด 1 ชิ้น

 วันที่ 4

          มื้อเช้า : ขนมปัง 1 แผ่น น้ำผลไม้หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม
          มื้อกลางวัน : สลัดผักและไก่ย่าง 1 ชิ้น
          มื้อเย็น : โยเกิรต์

 วันที่ 5

          มื้อเช้า : น้ำผลไม้หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม
          มื้อกลางวัน : ส้มตำและไก่ย่าง 1 ชิ้น
          มื้อเย็น : สลัดผัก

 วันที่ 6

          มื้อเช้า : น้ำผลไม้หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม
          มื้อกลางวัน : ปลานึ่งหรือปลาเผา
          มื้อเย็น : นมสด

 วันที่ 7

          มื้อเช้า : ข้าวสวย 1 ทัพพี และหมูย่าง 1 ชิ้น หรือ ข้าวสวย 1 ทัพพี และไข่ต้ม 1 ลูก
          มื้อกลางวัน : เกาเหลาลูกชิ้นหมู
          มื้อเย็น : สับปะรด 1 ชิ้น

         ส่วนวันที่แปด มื้อเช้า มื้อกลางวัน มื้อเย็น สามารถรับประทานอาหารอะไรก็ได้ตามใจชอบ แต่ถ้าอยากลดน้ำหนักต่อให้เริ่มรับประทานเหมือนที่ทำตั้งแต่วันแรกค่ะ

                                          ที่มา : http://health.kapook.com/view3335.html