โครงงานวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี
เรื่อง ขนมบัวลอยไข่เต่าเหล่าคนไทย
จัดทำโดย
นาย นาย ปฐมพร ดุลยรัตน์ เลขที่ 5 (หัวหน้า)
นางสาว อรนิดา วรรณรัตน์ เลขที่ 12 (รองหัวหน้า)
นางสาว ธิดารัตน์ รอดวิบาก เลขที่ 8 (เหรัญญิก)
นางสาว ชนากานต์ สุขะ เลขที่ 14 (ปฏิคม)
นาย พชรพลเพ็ชรสินธพ เลขที่ 13 (เลขานุการ)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1
เสนอ
อาจารย์ ศิริรัตน์ ปานสุวรรณ
โรงเรียนตราดสรรเสริญวิทยาคม
บทคัดย่อ
โครงงาน ขนมบัวลอยไข่เต่าเหล่าคนไทย
ผู้จัดทำ นาย นาย ปฐมพร ดุลยรัตน์ เลขที่
5 (หัวหน้า)
นางสาว อรนิดา วรรณรัตน์ เลขที่ 12 (รองหัวหน้า
นางสาว ธิดารัตน์ รอดวิบาก เลขที่ 8 (เหรัญญิก)
นางสาว ชนากานต์ สุขะ เลขที่ 14 (ปฏิคม)
นาย พชรพลเพ็ชรสินธพ เลขที่ 13 (เลขานุการ)
ครูที่ปรึกษาโครงงาน อาจารย์ ศิริรัตน์ ปานสุวรรณ
สถานที่ศึกษา โรงเรียนตราดสรรเสริญวิทยาคม
เนื่องจากในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เช่น งานทำบุญ
เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ
เพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควร ส่วนใหญ่เป็น
ขนบประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้านในเทศกาลต่างๆ ในปัจจุบัน ขนมไทยมีอัตราน้อยลงในงานพิธีต่างๆ เพราะ
มีการรับวัฒนธรรมของต่างชาติเข้ามา จนทำให้ขนมไทยขาดความเป็นที่นิยม
การจัดทำโครงงานนี้เพื่อเป็นสื่อการเรียนรู้และเป็นการนำเสนอขนมไทยให้กลับมาในยุคที่ขนมไทยขาดหายไป
ให้กลับมานิยมเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง เราจึงยกตัวอย่างขนมไทยที่มีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเองมีความสำคัญในงานเทศกาลต่างๆของประเพณีไทย
เพื่อกระจายความรู้และวิธีการทำขนมบัวลอยไข่เต่า
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานเรื่องขนมบัวลอยไข่เต่าเหล่าคนไทย นี้มีที่มา สำเร็จลงได้ด้วยความกรุณาของคุณครู
ขอขอบคุณครูที่ปรึกษาโครงงานคือ ครู ศิริรัตน์ ปานสุวรรณ ที่กรุณาให้คำแนะนำในการจัดทำโครงงาน
แนะนำการสืบค้นข้อมูลด้วยอินเทอร์เน็ต
ท้ายที่สุดขอกราบขอบพระคุณ คุณพ่อ คุณแม่และญาติทุกท่าน ที่กรุณาให้ข้อมูลรวมทั้งสนับสนุนวัสดุ
อุปกรณ์และให้กำลังใจในการทำโครงงาน จนสำเร็จลงด้วยดี
ข้าพเจ้าหวังว่ารายงานโครงงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจ สำหรับเป็นแนวทางในการจัดทำรายงานโครงงานต่อไป
คณะผู้จัดทำ
สารบัญ
เรื่อง หน้า
บทที่1 1
-ที่มาและความสำคัญ
-วัตถุประสงค์
บทที่2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 2
-ส่วนผสม
-วิธีการทำ
-H&C Tip 3
บทที่3 ขั้นตอนและวิธีการดำเนินงาน 4
-วิธีการดำเนินงาน
-เครื่องมือและอุปกรณ์
บทที่4 ผลการดำเนินงาน 5
บทที่5
สรุปผลอภิปรายการดำเนินการ 6
-สรุปผล
-ปัญหาและอุปสรรค
-ข้อเสนอแนะ
บทที่ 1
บทนำ
ที่มาและความสำคัญ
ในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เช่น งานทำบุญ
เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ
เพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควร ส่วนใหญ่เป็น
ขนบประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้านในเทศกาลต่างๆ ในปัจจุบัน ขนมไทยมีอัตราน้อยลงในงานพิธีต่างๆ เพราะ
มีการรับวัฒนธรรมของต่างชาติเข้ามา จนทำให้ขนมไทยขาดความเป็นที่นิยม
การจัดทำโครงงานนี้เพื่อเป็นสื่อการเรียนรู้และเป็นการนำเสนอขนมไทยให้กลับมาในยุคที่ขนมไทยขาดหายไป
ให้กลับมานิยมเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง เราจึงยกตัวอย่างขนมไทยที่มีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเองมีความสำคัญในงานเทศกาลต่างๆของประเพณีไทย
เพื่อกระจายความรู้และวิธีการทำขนมบัวลอยไข่เต่า
วัตถุประสงค์
เพื่อสร้างสื่อ powerpointเรื่อง ขนมบัวลอยไข่เต่าเหล่าคนไทย
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.
เพื่อรู้จักสูตรและกลวิธีการทำ
2.
เพื่อให้รู้จักการรักษาขนมไทย
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ขนมไข่เต่ามีไส้เป็นถั่วผัดรสชาติแบบไทยๆคล้ายไส้ขนมเทียน ห่อด้วยแป้งข้าวเหนียวนวดกับน้ำเนื้อนุ่มหยุ่น
ปั้นเป็นก้อนกลมหน้าตาเหมือนบัวลอยน้ำขิง ใส่ในน้ำกะทิรสหอมหวาน เป็นขนมรสละไมแบบโบราณที่อร่อยไปอีกแบบ
ส่วนผสมไข่เต่า (ประมาณ 30 ลูก)
- ถั่วทอง(ถั่วเขียวกะเทาะเปลือก) 250 กรัม
- แป้งข้าวเหนียว 250 กรัม
- หัวกะทิ 1 ถ้วย
- หอมแดงสับละเอียด 4 หัว
- พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 2 ช้อนชา
ส่วนผสมน้ำกะทิ
- หางกะทิ 3 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
- หัวกะทิ 1 ถ้วย
- งาดำคั่วและถั่วลิสงคั่วสำหรับโรยหน้า
วิธีทำ
1.
แช่ถั่วทองค้างคืนไว้หรือประมาณ 5 ชั่วโมง นึ่งให้สุก (หรือจะใช้วิธีลัดหุงด้วยหม้อหุงข้าว โดยใส่น้ำให้สูงประมาณ
2 ข้อนิ้ว)
2.
ผัดถั่วที่สุกแล้วกับหัวกะทิ เมื่อเริ่มงวดใส่หอมแดง พริกไทย น้ำตาลทรายและเกลือ ผัดจนส่วนผสมเนียนและร่อนจากกระทะ
แต่ระวังอย่าให้แห้งเกินไป ชิมรส ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น จากนั้นปั้นถั่วให้เป็นก้อนกลมประมาณหัวแม่มือ พักไว้
3.
นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำเปล่าให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน(ค่อยๆเติม
น้ำทีละน้อยระหว่างนวด) ปั้นเป็นก้อนกลมให้ใหญ่กว่าไส้เล็กน้อย กดให้แบนลงเป็นแผ่นบาง วางไส้ถั่ว ตรงกลาง ห่อแป้งให้มิด
คลึงเป็นก้อนกลม
4.
นำไข่เต่าไปต้มในน้ำเดือด เมื่อสุกแล้วแป้งจะลอยขึ้น ตักขึ้นแช่น้ำเย็นไว้
เพื่อไม่ให้ไข่เต่าติดกัน
5.
นำหางกะทิตั้งไฟให้ร้อน(ใช้ไฟอ่อน) ใส่น้ำตาลทรายคนให้ละลาย
ใส่ไข่เต่าที่ต้มไว้ จากนั้นเติมหัวกะทิลงไป คนให้เข้ากัน
ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟโรยด้วยงาดำและถั่วลิสงคั่ว
H&C
Tip
- ถั่วทองหรือถั่วเขียวกะเทาะเปลือก จะเรียกได้หลายชื่อ เม็ดเล็กสีเหลือง แต่ โบราณมักเรียกถั่วนี้ว่า ถั่วเหลืองซีก ระวังอย่าสับสนกับถั่วเหลืองที่นำไปทำน้ำเต้าหู้
- ไส้ไข่เต่าควรปรุงให้มีรสค่อนข้างจัด
- ถ้าใช้น้ำอุ่นนวดแป้งข้าวเหนียว จะช่วยให้นวดแป้งและปั้นได้ง่ายขึ้น
- ถั่วทองหรือถั่วเขียวกะเทาะเปลือก จะเรียกได้หลายชื่อ เม็ดเล็กสีเหลือง แต่ โบราณมักเรียกถั่วนี้ว่า ถั่วเหลืองซีก ระวังอย่าสับสนกับถั่วเหลืองที่นำไปทำน้ำเต้าหู้
- ไส้ไข่เต่าควรปรุงให้มีรสค่อนข้างจัด
- ถ้าใช้น้ำอุ่นนวดแป้งข้าวเหนียว จะช่วยให้นวดแป้งและปั้นได้ง่ายขึ้น
บทที่ 3
ขั้นตอนและวิธีการดำเนินงาน
วิธีการดำเนินงาน
1.
ประชุมเรื่องหัวข้อที่จะดำเนินงาน
2.
ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับหัวข้อเรื่องที่เราได้ประชุมกันมา
3.
ปรึกษาเรียบเรียงทำรายงาน Microsoft Word
4.
ทำสื่อเพื่อการเรียนรู้
powerpoint
5.
ดำเนินงาน
6.
สรุปผลการทำงาน
7.
นำเสนอ
เครื่องมือและอุปกรณ์
1.
คอมพิวเตอร์
2.
อินเตอร์เน็ต
3.
โปรแกรม powerpoint
4.
โปรแกรม powerpoint
บทที่ 4
ผลการดำเนินงาน
จากการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับขนมบัวลอยไข่เต่า
จากเว็บไซต์ต่างๆจึงได้จัดทำสื่อด้วยโปรแกรม power point เรื่องขนมบัวลอยไข่เต่าเหล่าคนไทย ได้จำนวน 14 สไลด์ แบ่งเป็นเนื้อหา 5
สไลด์ และคำถามทบทวน 5 สไลด์ ดังนี้
บทที่5
สรุปผลอภิปรายการดำเนินการ
ผลสรุป
1.
ได้รับความรู้จากการทำขนมบัวลอยไข่เต่า
2.
ได้รู้ส่วนผสมในการทำขนมบัวลอยไข่เต่า
3.
สามารถทำสื่อสไลด์โชว์ได้อย่างสวยงาม
ปัญหาและอุปสรรค
จากการทำโครงงานในครั้งนี้ทำให้ดิฉันรู้ว่าการทำงานเป็นทีมเวิร์กไม่ใช่เรื่องง่าย
ในการศึกษาค้นคว้าดูประสบการณ์ของผู้ร่วมงานเป็นสิ่งที่ต้องคำนึง
ถ้าไม่คำนึงถึงผลกระทบในโครงงานครั้งนี้คือ ทำให้หัวหน้างานแบ่งลูกน้องแบบไม่รู้ว่าลูกน้องไม่สามารถทำงานนั้นได้แต่สามารถทำงานอื่นได้
และผู้ได้รับหน้าที่นั้นจะไม่สามารถทำงานนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบตามอย่างที่คาดไว้
ทำให้เกิดความเชื่องช้าในการทำโครงงานอย่างมาก
ข้อเสนอแนะ
1.
ควรประชุมสอบถามหน้าที่ให้ดีและแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจน
2.
ควรคำนึงถึงเวลาในการทำโครงงานให้ดีหรือทำตารางการทำงานไว้
3.
ควรศึกษาหัวเรื่องในการทำโครงงานให้ดีเสียก่อนลงมือปฏิบัติ
บรรณานุกรม